27 ต.ค. 2550

ท่ามเมือง:สวัสดีลมหนาว

มันเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้เอง

ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังปลดปล่อยอารมณ์เช่นทุกเช้า พลันนั้นมันก็ค่อยๆพรั่งพรูมาอย่างกระมิดกระเมี้ยนราวกับผู้ผ่านทางที่เขินอาย ครั้นพอข้าพเจ้าโปรยรอยยิ้มรับมันนั่นแหละมันถึงได้พากันพร่างพรูออกมาจากซอกตึกเต็มกระบวนสาย

"สวัสดีลมหนาว" ข้าพเจ้าพึมพำในรอยยิ้มนั้น พร้อมๆกับหลับตาเพื่อจะใช้ผิวหน้าสัมผัสสหายเก่าที่ผ่านทางมาเช่นทุกขวบฤดู
"ไม่ผิดแน่ ลมหนาวจริงๆด้วย" ข้าพเจ้านึกในใจเมื่อพริ้วกระแสโลมไล้บนผิวหน้า รู้สึกได้ถึงความแผ่วเย็นที่คุ้นเคย

ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ในวัยเยาว์ที่ข้าพเจ้าไม่เคยรับรู้ว่าโลกใบนี้กว้างมากมายสักเพียงไหน ข้าพเจ้าและเพื่อนวัยเดียวกันอีกหลายคนมักชอบฤดูนี้มากที่สุด ฤดูที่สายลมพัดพาเอาความเย็นสะอาดมาพร้อมกับดอกอ้อยและตัวออดแอด ช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานที่สุดของปี เพราะพวกเรามักจะสนุกกับการไล่ล่าด้วงมีเขาและแข่งทำใบพัดจากก้านของดอกอ้อย สายลมที่ทอสายมาอยู่เป็นระยะดุจเดียวกับรอยยิ้มของพวกเรา หมอกหนายามเช้าเย้ายวนให้ออกไปวิ่งไล่จับ เค้าของความรู้สึกช่วงแบบนี้หอมชื้นและชื่นใจทุกครั้งเมื่อคราวลมหนาวผ่านทางมา จวบกระทั่งเมื่อข้าพเจ้าเติบใหญ่ บางค่ำที่ความหนาวลงจัดเรื่องเล่ารอบสุมไฟก็จะจัดขึ้นในค่ำนั้น กลิ่นมันเผาลอยคลุ้งท่ามกลางเรื่องตลกและตื่นเต้นของพ่อ เป็นอย่างนี้จวบจนสิ้นฤดู ความรู้สึกในช่วงเวลานั้นสำหรับข้าพเจ้าดูเหมือนจะสมบูรณ์ที่สุดในช่วงชีวิต หอมหวามและรื่นเริงท่ามกลางบรรยากาศที่แสนวิเศษ ปลดปล่อยความรู้สึกออกได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเก็บมารยาอะไรไว้

ข้าพเจ้าค่อยๆลืมตา สูดหายใจลึก

คงจะดีถ้าข้าพเจ้าไม่เคยรับรู้ว่าโลกใบนี้กว้างมากมายสักเพียงไหน

ด้วยความเคารพ

คั่นฯ

ไม่มีความคิดเห็น: