5 ส.ค. 2550

กลอนเถื่อน

กองหัวใจไว้แทบเท้า ในเงาเหงา
รับความเศร้า เข้าหัวใจ ให้แทนที่
บรรจงร่าย "กลอนเถื่อน" เพื่อนแสนดี
สาปความดี ที่เฝ้าทำ ไม่นำพา

ดาวพราวพร่าง อย่างเยาะหยัน ที่ฉันเห็น
สายลมเย็น พัดถากถาง อย่างเฉื่อยช้า
ไอดวงเดือน ส่ายดวงหน้า ล้าระอา
ไอฟ้าบ้า! สะเยะยิ้ม อย่างพริ้มเพรา

ขว้างความหวัง สุดแสนไกล ไปอย่ากลับ
แล้วน้อมรับ ความพร่าเลือน มาเพื่อนความเหงา
ลบทางฝัน ด้วยฝ่าเท้า ทุกก้าวเรา
ความโง่เง่า นี่สิน่า อ้าแขนรอ

สบถด่า ตัวบุญ ไม่หนุนเกื้อ
เฝ้าหลงเชื่อ มันไม่จริง สิ่งที่ขอ
ประพฤติดี ไม่ชี้นำ ไม่ค้ำคอ
กรรมเก่าก่อ ไม่มีจริง เหมือนสิ่งลวง

เมืองพลุกพร่าน ม่านตา เริ่มพร่าพร่า
มนุษย์มนา ตอมไฟ ในเมืองหลวง
แมลงคน ร่ายระบำ อย่างฉ่ำทรวง
ตอมไฟดวง โลกัณ อย่างหรรษา

เหยียบหัวใจ ให้แบนบี้ ที่เบื้องบาท
บรรจงวาด "กลอนเถื่อน" เพื่อนอักษา
รินน้ำตา กลบอดีต ที่ขีดมา
และด่าว่า อนาคต ที่หมดทาง

ดวงตะวัน ก็ขลาดโง่ ไม่โผล่หน้า
ทิ้งตัวข้า ในราตรี ที่เคว้งคว้าง
กลอนลื่นไหล น้ำตาใจ ใหลเป็นทาง
สูดความว้าง เข้าหัวอก อย่างฟกช้ำ

ท้องนภา พร่าเลือน เดือนเข้าเมฆ
ความวิเวก เข้าแทนห้วง เข้าล่วงล้ำ
เอื้อมมือหยิบ ใจแหลกเศร้า ใต้เงาดำ
ขีดเขียนคำ ว่า"ฟ้าใหม่" ใต้กวี

คืนเหงา

ไม่มีความคิดเห็น: