5 ส.ค. 2550

ปุถุชนคนเรียกชื่อ

เขาเรียกขานนามนั้น ปุถุชน
เป็นบุคคลพลเรือนพลราษฎร์
ทำสัมมาในอาชีพ เป็นคนกวาด
ทำความสะอาด และแพ่วถางทางเดินคน

บ้างเรียกขานนามผู้นั้น "คนกวาดขยะ"
รับภาระกิจการงานกวาดขน
เมือซ้ายกวาดขวาปาดเหงื่อ เหนื่อยเหลือทน
ขยะถนนยังดาดาษ กวาดเข้าไป!

ผู้สัญจรย้อนถาม ความรู้สึก
คุณนั่นนึกกระไรกันฉันสงสัย
งานมีเกียรติอืนดื่นดาถาถมไป
แล้วไฉน มาเลือกงาน ต่ำการกรรม

สองมือกวาดตาก็วาดไปบาทเบื้อง
ปากตอบเรื่อง มือกวาด ไปใจก็ขำ
"ฉันไม่ทำแล้วใครเล่าเขาจะทำ"
หากมันต่ำใครจะคิดไม่ติดเคือง

สองมือกวาดบาทวิถี มีวัตถุ
วัสดุสีทอง ส่องแสงเหลือง
เอื้อมมือหยิบสายสีทอง มองชำเลือง
ณ.บาทเบื้องพื้นวิถี มีสร้อยทอง!

ใจตุบตับนับจากหนึ่งไม่ถึงสิบ
คำสั่งหยิบแล่นพล่าน ผ่านสมอง
ส่ายซ้ายขวาแลสายตาระวังมอง
หยิบมาคล้องใส่คอ ไม่รอที!

นึกถึงคำคนสัญจรที่ย้อนถาม
คิดถึงความคำทิ้งไว้ "ไร้ศักดิ์ศรี"
ถอดสายทองท่องด้วยใจ "ไว้ความดี"
หากอยากมีเกียรติยศ"ลดอยากได้"

ปุถุชนคนเรียกชือนายซื่อสัตย์
ปฎิบัติเป็นแบบอย่าง ช่างสุขใส
มือกวาดไปใจก็อิ่มยิ้มละไม
ไม่มีใครเรียกชื่อเดิม(คนกวาดขยะ)เริ่มปรีดี

นานเข้านานเข้า...

ผู้สัญจรผู้ใหม่ใครเอ่ยทัก
"ขยะหนักกวาดเหนื่อยไหม" ในวิถี
"อ๋อ ไม่หรอก"เขาบอกไปในพาที
" ไปแล้วพี่ คนกวาดขยะ" แล้ว(เขาก็)ผละไป

ไม่มีความคิดเห็น: